One world

วันจันทร์-ศุกร์ 09.00-18.00 น.
วันเสาร์ 09.00-13.00 น.

ไขทุกข้อสงสัย: คู่มือขอ Visa Schengen 2025 (ฉบับอัปเดตล่าสุด!)

June 16, 2025 | by One world
schengen visa.

ไขทุกข้อสงสัย: คู่มือขอ Visa Schengen 2025 (ฉบับอัปเดตล่าสุด!)

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางสู่ยุโรป! บทความนี้รวบรวมทุกข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการยื่นVisa Schengen ปี 2025 ตั้งแต่เอกสารที่ต้องเตรียม, ขั้นตอนการยื่นคำร้อง, ไปจนถึงเคล็ดลับสำคัญเพื่อให้คุณได้วีซ่าอย่างราบรื่น

ทำความรู้จักกับ วีซ่าเชงเก้น คืออะไร?

Visa Schengen เป็นวีซ่าประเภทหนึ่งที่อนุญาตให้ผู้ถือสามารถเดินทางเข้า-ออก หรือพำนักในกลุ่มประเทศเชงเก้นได้สูงสุด 90 วัน ภายในระยะเวลา 180 วัน โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าแยกสำหรับแต่ละประเทศ สมาชิกกลุ่มประเทศเชงเก้นในปัจจุบัน (ณ ปี 2025) มีทั้งหมด 29 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย, เบลเยียม, โครเอเชีย, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, ฮังการี, ไอซ์แลนด์, อิตาลี, ลัตเวีย, ลิกเตนสไตน์, ลิทัวเนีย, ลักเซมเบิร์ก, มอลตา, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, สโลวาเกีย, สโลวีเนีย, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, โรมาเนีย และบัลแกเรีย

ใครบ้างที่ต้องขอ วีซ่าเชงเก้น?

โดยทั่วไปแล้ว พลเมืองส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เป็นพลเมืองของกลุ่มประเทศเชงเก้น หรือประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าสำหรับพื้นที่เชงเก้น (เช่น สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, สหราชอาณาจักร ฯลฯ) จะต้องยื่นขอวีซ่านี้เพื่อเดินทางเข้าสู่เขตเชงเก้น สำหรับพลเมืองไทยนั้นจำเป็นต้องขอวีซ่านี้ทุกครั้งที่ต้องการเดินทางเข้ากลุ่มประเทศเหล่านี้ (ยกเว้นผู้ที่ถือหนังสือเดินทางราชการบางประเภท)

ประเภทของ Visa Schengen ที่ควรรู้

ประเภทของ Visa Schengen ที่ควรรู้

Visa Schengen มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการเดินทาง แต่ประเภทที่นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจนิยมใช้มากที่สุดคือ:

  • วีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa): สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว พักผ่อน หรือเยี่ยมญาติ/เพื่อน
  • วีซ่าธุรกิจ (Business Visa): สำหรับผู้ที่เดินทางเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เช่น เข้าร่วมประชุม, ฝึกอบรม, เจรจาธุรกิจ
  • วีซ่าเยี่ยมเยือน (Visitor Visa): สำหรับผู้ที่เดินทางไปเยี่ยมญาติหรือเพื่อน โดยมีจดหมายเชิญจากผู้ที่อยู่ในประเทศเชงเก้น
  • วีซ่านักเรียน (Student Visa – ระยะสั้น): สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนหลักสูตรระยะสั้นไม่เกิน 90 วัน (หากเกิน 90 วันต้องขอ National Visa)

เอกสารที่ต้องเตรียม (Checklist ฉบับสมบูรณ์!)

การเตรียมเอกสารที่ครบถ้วนและถูกต้องเป็นหัวใจสำคัญของการยื่นวีซ่าเชงเก้นให้ผ่านฉลุย นี่คือรายการเอกสารที่คุณต้องเตรียม:

  1. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa Application Form): กรอกข้อมูลครบถ้วน พร้อมลงนาม
  2. หนังสือเดินทาง (Passport):
    • มีอายุไม่น้อยกว่า 3 เดือน นับจากวันที่คาดว่าจะเดินทางออกจากเขตเชงเก้น
    • มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า
    • (สำเนาหนังสือเดินทางหน้าแรก และสำเนาวีซ่าเชงเก้น/สหรัฐอเมริกา/สหราชอาณาจักร/แคนาดา/ญี่ปุ่น/เกาหลีใต้ ที่เคยได้รับในอดีต ถ้ามี)
  3. รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว: จำนวน 2 รูป (บางสถานทูตอาจต้องการ 1 รูป)
    • พื้นหลังสีขาว
    • ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน
    • เห็นใบหน้าชัดเจน ไม่สวมแว่นกันแดด หรือหมวก (ยกเว้นเหตุผลทางศาสนา)
  4. ประกันภัยการเดินทาง (Travel Insurance):
    • คุ้มครองทั่วเขตเชงเก้น
    • วงเงินคุ้มครองไม่ต่ำกว่า 30,000 ยูโร (ประมาณ 1.5 – 2 ล้านบาท)
    • คุ้มครองค่าใช้จ่ายทางการแพทย์, การส่งตัวกลับประเทศ, และกรณีเสียชีวิต
    • กรมธรรม์ต้องครอบคลุมตลอดระยะเวลาที่อยู่ในเขตเชงเก้น
  5. หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ: แสดงกำหนดการเดินทางเข้า-ออกที่ชัดเจน
  6. หลักฐานการจองที่พัก: (เช่น โรงแรม, โฮสเทล, หรือจดหมายเชิญจากผู้ที่พักอาศัยในเชงเก้น พร้อมสำเนาเอกสารยืนยันตัวตนของผู้เชิญ) ครอบคลุมตลอดระยะเวลาที่อยู่ในเชงเก้น
  7. หลักฐานทางการเงิน:
    • Bank Statement: ย้อนหลัง 3-6 เดือน (แล้วแต่สถานทูตกำหนด) พร้อม Bank Certification Letter (หนังสือรับรองทางการเงิน) แสดงยอดเงินคงเหลือเพียงพอต่อการเดินทาง
    • (สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ/เจ้าของกิจการ อาจต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม เช่น ทะเบียนการค้า, งบการเงิน)
  8. หลักฐานการทำงาน/ศึกษา:
    • พนักงานบริษัท: หนังสือรับรองการทำงาน (Employment Certificate) ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันที่เริ่มงาน, และวันลาหยุดที่ได้รับอนุญาต
    • เจ้าของกิจการ: หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท (DBD) หรือทะเบียนพาณิชย์
    • นักเรียน/นักศึกษา: หนังสือรับรองสถานะนักเรียน/นักศึกษาจากสถาบันการศึกษา
    • เกษียณอายุ/ว่างงาน: อาจต้องแสดงหลักฐานทางการเงินที่ชัดเจน หรือเอกสารแสดงความผูกพันกับประเทศไทย
  9. แผนการเดินทาง (Itinerary): ระบุรายละเอียดการเดินทางแต่ละวัน, เมืองที่จะไป, สถานที่ท่องเที่ยว, และวิธีเดินทาง (ไม่จำเป็นต้องละเอียดทุกนาที แต่ต้องสมเหตุสมผลและครอบคลุม)
  10. สำเนาทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชน: พร้อมฉบับแปล (หากเอกสารเป็นภาษาไทย)
  11. เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี): เช่น สูติบัตร (สำหรับผู้เยาว์), ทะเบียนสมรส/หย่า, หนังสือยินยอมจากบิดา/มารดา (สำหรับผู้เยาว์ที่เดินทางคนเดียวหรือกับผู้ปกครองท่านเดียว)

ข้อควรจำ: เอกสารทั้งหมดต้องเป็นภาษาอังกฤษ หรือมีคำแปลที่ได้รับการรับรอง

ขั้นตอนการขอ

  1. เลือกประเทศที่จะยื่นคำร้อง:
    • ประเทศที่คุณจะพำนักนานที่สุด
    • หากพำนักเท่ากันหลายประเทศ ให้ยื่นที่ประเทศแรกที่คุณจะเดินทางเข้า
  2. จองคิวออนไลน์: เข้าไปที่เว็บไซต์ของสถานทูต/ศูนย์รับยื่นวีซ่าของประเทศที่คุณจะยื่น (เช่น VFS Global, TLScontact, BLS International) เพื่อจองวันและเวลา
  3. กรอกแบบฟอร์มออนไลน์/ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม: กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้อง
  4. เตรียมเอกสาร: รวบรวมเอกสารทั้งหมดตามรายการข้างต้น ตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วน
  5. เดินทางไปยื่นเอกสารตามนัดหมาย:
    • ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า (ประมาณ 80 ยูโร หรือตามอัตราแลกเปลี่ยน)
    • สแกนลายนิ้วมือ (Biometrics) และถ่ายรูป
    • สัมภาษณ์ (บางกรณี หรือหากเจ้าหน้าที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม)
  6. รอผลการพิจารณา: ระยะเวลาพิจารณาปกติประมาณ 15 วันทำการ แต่อาจใช้เวลานานขึ้นในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว
  7. รับหนังสือเดินทางคืน: โดยปกติจะได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมลหรือ SMS เมื่อหนังสือเดินทางพร้อมรับคืน

ค่าใช้จ่ายในการขอ Visa Schengen

  • ค่าธรรมเนียมวีซ่า: ประมาณ 80 ยูโร สำหรับผู้ใหญ่ (เด็ก 6-12 ปี ประมาณ 40 ยูโร, ต่ำกว่า 6 ปี ฟรี)
  • ค่าบริการศูนย์รับยื่นวีซ่า: (เช่น VFS Global, TLScontact) ประมาณ 700 – 1,000 บาท
  • ค่าประกันภัยการเดินทาง: ราคาขึ้นอยู่กับระยะเวลาคุ้มครองและวงเงินประกัน (ประมาณ 500 – 2,000 บาท)
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ: เช่น ค่าถ่ายรูป, ค่าถ่ายเอกสาร, ค่าแปลเอกสาร, ค่าเดินทางไปยื่นวีซ่า

เคล็ดลับเพิ่มโอกาสการอนุมัติ Visa Schengen

  • ยื่นล่วงหน้า: ควรยื่นคำร้องล่วงหน้าอย่างน้อย 1-3 เดือนก่อนวันเดินทางที่วางแผนไว้
  • เอกสารครบถ้วน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอกสารทั้งหมดครบถ้วน ถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน
  • ความสอดคล้องของข้อมูล: ข้อมูลในเอกสารทุกฉบับควรสอดคล้องกัน (เช่น วันที่เดินทางในตั๋วเครื่องบิน, การจองโรงแรม, แผนการเดินทาง)
  • แสดงเจตนาการกลับประเทศไทย: มีความผูกพันกับประเทศไทยที่ชัดเจน เช่น หน้าที่การงาน, ครอบครัว, ทรัพย์สิน
  • หลักฐานการเงินที่เพียงพอ: แสดงให้เห็นว่าคุณมีเงินเพียงพอสำหรับการเดินทางและค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาที่พำนัก
  • ซื่อสัตย์และตอบคำถามอย่างมั่นใจ: หากมีการสัมภาษณ์ ควรตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมาและมั่นใจ
  • แต่งกายสุภาพ: ในวันยื่นเอกสารและสแกนลายนิ้วมือ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Visa Schengen

  • Q: ยื่นวีซ่าเชงเก้นที่ไหนดีที่สุด?
    • A: ยื่นที่สถานทูต/ศูนย์รับยื่นวีซ่าของประเทศที่คุณจะพำนักนานที่สุด หรือประเทศแรกที่คุณเดินทางเข้า (หากพำนักเท่ากันหลายประเทศ)
  • Q: ต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ถึงจะขอวีซ่าเชงเก้นได้?
    • A: ไม่มีตัวเลขตายตัว แต่ควรมีอย่างน้อย 3,000-5,000 บาทต่อวันของการเดินทาง หรือมียอดเงินคงเหลือที่เหมาะสมกับจำนวนวันและแผนการเดินทางของคุณ
  • Q: ถ้าไม่มีงานทำ ขอวีซ่าเชงเก้นได้ไหม?
    • A: ได้ครับ แต่คุณต้องแสดงหลักฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งเพียงพอต่อการเดินทาง หรือมีผู้รับรองทางการเงิน (Sponsor) ที่มีหลักฐานชัดเจน
  • Q: ขอวีซ่าเชงเก้นประเภท Multiple Entry ได้ไหม?
    • A: ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสถานทูต และประวัติการเดินทางของคุณ หากเคยได้รับวีซ่าเชงเก้นมาก่อนและปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ก็มีโอกาสสูงที่จะได้รับแบบ Multiple Entry
  • Q: ผลวีซ่าออกช้า ทำยังไงดี?
    • A: โดยปกติควรยื่นล่วงหน้าอย่างน้อย 1-3 เดือน หากใกล้กำหนดเดินทางแล้วยังไม่ออกผล ให้ติดต่อศูนย์รับยื่นวีซ่าหรือสถานทูตที่คุณยื่นโดยตรง

สรุป: เตรียมตัวดี มีชัยไปกว่าครึ่ง!

การขอ Visa Schengen อาจดูซับซ้อนในตอนแรก แต่หากคุณเตรียมเอกสารครบถ้วน ทำตามขั้นตอนอย่างละเอียด และเข้าใจข้อกำหนดต่างๆ การเดินทางสู่ยุโรปในฝันของคุณก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ขอให้ทุกท่านโชคดีและสนุกกับการเดินทาง!

One World Tour & Travel จัดกรุ๊ปทัวร์ท่องเที่ยวทั่วโลก กรุ๊ปเหมาดูงาน, สัมมนา, ท่องเที่ยวประจำปี คุณภาพดีเยี่ยม

เพิ่มเพื่อน